ซาดิโอ มาเน่

สมาคมฟุตบอลเซเนกัล แถลงยืนยัน ซาดิโอ มาเน่ ตัวรุกคนสำคัญของทีมจะพลาดการเล่นฟุตบอลโลกรอบแบ่งกรุ๊ปเกมแรก จากอาการบาดเจ็บน่องที่ติดตัวมาตั้งแต่เล่นในระดับสโมสร

ซาดิโอ

กองหน้าบาเยิร์น มิวนิค มีอาการเจ็บมาก่อนหน้านี้

แต่ก็ยังมีชื่อในทีม “สิงโตแห่งเตรันก้า” มาเล่นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ โดยอาการบาดเจ็บนี้ไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ก็จะมีผลให้เขาพลาดเกมแรกของรอบแบ่งกรุ๊ปอย่างแน่นอนแล้ว

“พวกเราจัดเตรียมทีมที่จะลงเล่นในเกมแรกของรอบแบ่งกรุ๊ปโดยที่จะไม่มี ซาดิโอ อยู่ในสนาม รวมทั้งพวกเราจะลงเล่นเพื่อชัยชนะแม้ว่าจะไม่มีเขาอยู่ในทีมก็ตาม แน่นอนไม่มีใครอยากที่จะให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้นแล้วกับพวกเรา” อับดุลลาย โซว์ หนึ่งในตัวแทนของสมาคมฟุตบอลเซเนกัล กล่าว

มาเน่

เซเนกัล จะลงเล่นร่วมกลุ่มเอ

โดยจะเจอกับ เนเธอร์แลนด์ ในเกมเปิดสนาม โดยมีอีกสองชาติร่วมกลุ่มประกอบไปด้วย กาตาร์ ประเทศเจ้าภาพ และ เอกวาดอร์ ซึ่ง เซเนกัล กับฟุตบอลโลกครั้งนี้มาพร้อมกับดีกรีแชมป์แอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ปีล่าสุดอีกด้วย

ประวัติ มาเน่

ประวัติของ ซาดิโอ มาเน่

เป็นนักฟุตบอลชาวเซเนกัล ซึ่งปัจจุบันเล่นในตำแหน่งปีกให้กับไบเอิร์นมิวนิกในบุนเดิสลีกาและทีมชาติเซเนกัล เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่มีฝีเท้าดีที่สุดในโลก รวมถึงเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลจากทวีปแอฟริกาที่เก่งที่สุดตลอดกาล มาเน่มีจุดเด่นในด้านการทำประตู การเลี้ยงลูกบอล และความเร็ว มาเน่ได้เริ่มต้นอาชีพกับสโมสรแม็สในลีกเดอในวัย 19 ปี แต่เล่นได้เพียงฤดูกาลเดียวเขาก็ได้ย้ายไปร่วมทีมเร็ดบุลซัลทซ์บวร์คในออสเตรียด้วยค่าตัว 4 ล้านยูโร ก่อนที่จะคว้าแชมป์สองรายการในฟุตบอลลีกและฟุตบอลถ้วยในประเทศได้ในฤดูกาล 2013–14 และได้ย้ายไปเซาแทมป์ตันในพรีเมียร์ลีกด้วยค่าตัวสถิติสโมสร 11.8 ล้านปอนด์ ซึ่งเขาทำสถิติเป็นผู้เล่นที่ใช้เวลาทำแฮตทริกน้อยที่สุดเพียง 176 วินาที โดยทำได้ในนัดที่ชนะแอสตันวิลลาด้วยผลประตู 6–1 ใน ค.ศ. 2015

มาเน่ ย้ายร่วมทีมลิเวอร์พูลในฤดูกาล 2016–17 ค่าตัว 34 ล้านปอนด์

และมีส่วนสำคัญในการพาทีมเข้าชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกสองฤดูกาลติดต่อกันใน ค.ศ. 2018 และ 2019 โดยคว้าแชมป์ได้ใน ค.ศ. 2019 รวมทั้งคว้าตำแหน่งผู้ทำประตูสูงสุดร่วมในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018–19 ก่อนจะพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2019–20 ซึ่งเป็นการคว้าแชมป์ลีกสูงสุดในรอบ 30 ปีของสโมสร ต่อมา เขาทำครบ 100 ประตูในพรีเมียร์ลีกในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2021 ซึ่งถือเป็นผู้เล่นจากทวีปแอฟริกาคนที่สามที่ทำได้ มาเนยังได้รับอันดับที่ 4 จากการประกาศผลบาลงดอร์ 2019 รวมถึงอันดับ 5 และอันดับ 4 ผู้เล่นชายยอดเยี่ยมของฟีฟ่าประจำ ค.ศ. 2019 และ 2020

ในนามทีมชาติ มาเนทำไป 33 ประตูจากการลงสนาม 91 นัดให้ทีมชาติเซเนกัล ตั้งแต่ติดทีมชาติชุดใหญ่ใน ค.ศ. 2012 ปัจจุบันเขาครองสถิติเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาล และลงสนามมากที่สุดเป็นอันดับสามของเซเนกัล เขาร่วมแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 และแอฟริกาคัพออฟเนชันส์ อีก 4 ครั้ง ใน ค.ศ. 2015, 2017, 2019 และ 2021 ซึ่งพาทีมคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศใน ค.ศ. 2019 และคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งทวีปแอฟริกาไปครองในปีนั้น ก่อนจะพาเซเนกัลคว้าแชมป์แอฟริกาคัพออฟเนชันส์สมัยแรกใน ค.ศ. 2021 ด้วยการเอาชนะอียิปต์ในการดวลจุดโทษตัดสิน ซึ่งมาเนเป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่ยิงจุดโทษพาทีมคว้าชัยชนะ และคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำการแข่งขันไปครอง มาเนยังเป็นกำลังสำคัญของทีมในฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งเป็นการเข้าร่วมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งที่สองของเซเนกัล และเขาได้รับการยกย่องโดยนิตยสาร New African ในฐานะ 1 ใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลของทวีปแอฟริกา

ซาดิโอ มาเน่ กับสโมสรอาชีพ

เซาแทมป์ตัน
ในวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 ระหว่างฤดูกาล 2014–15 มาเนได้ทำแฮททริกในนัดที่เซาแทมป์ตันพบกับแอสตันวิลลา ด้วยเวลาเพียง 2.56 นาที นับเป็นแฮททริกที่เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ทำลายสถิติเดิมของร็อบบี ฟาวเลอร์ ของลิเวอร์พูลที่ทำไว้ในนัดที่พบกับอาร์เซนอล เมื่อปี ค.ศ. 1994 และถือเป็นแฮททริกที่เร็วที่สุดในโลกเป็นอันดับ 8

ลิเวอร์พูลฤดูกาล 2016-17
ในวันที่ 28 มิถุนายน ค.ศ. 2016 มาเน่ย้ายมาร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญา 5 ปี และเป็นสถิติการซื้อตัวผู้เล่นชาวแอฟริกาที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร ในวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 2016 อินเตอร์เนชันแนลแชมเปียนส์คัพ ฤดูกาล 2016 ลิเวอร์พูล เจอกับ บาร์เซโลนา ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ มาเนทำประตูแรกในช่วงปรีซีซั่น ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาร์เซโลนา 4-0

ไบเอิร์นมิวนิก
ในวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 2022 มาเน่ได้ย้ายร่วมทีมไบเอิร์นมิวนิกในบุนเดิสลีกา โดยเซ็นสัญญาไปถึง ค.ศ. 2025 ด้วยค่าตัว 32 ล้านยูโร (27.4 ล้านปอนด์) และอาจเพิ่มขึ้นเป็น 41 ล้านยูโร (35 ล้านปอนด์) ขึ้นอยู่กับจำนวนนัดที่ลงสนาม รวมทั้งความสำเร็จส่วนตัวและความสำเร็จของสโมสร มาเนลงสนามนัดแรกในวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2022 ในการแข่งขันเดเอ็ฟเอ็ล-ซูเพอร์คัพ ฤดูกาล 2022 และสามารถทำประตูได้ทันที มีส่วนช่วยให้ทีมเอาชนะแอร์เบ ไลพ์ซิช ด้วยผลประตู 5–3 ตามด้วยการทำประตูแรกในบุนเดิสลีกานัดเปิดสนามที่ไบเอิร์นมิวนิกบุกไปชนะไอน์ทรัคท์ฟรังค์ฟวร์ท ด้วยผลประตู 6–1 ในสัปดาห์ต่อมา ต่อมาในวันที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2022 มาเนทำสองประตูในนัดที่ทีมบุกไปเอาชนะเฟาเอ็ฟเอ็ล โบคุม ด้วยผลประตู 7–0